วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ความเป็นมาของเรือนไทยพวน

ความเป็นมาของเรือนไทยพวน  อำเภอบ้านผือ  จังหวัดอุดรธานี

                   1.  ความเป็นมาของเรือนไทยพวน
                         บนแผ่นดินที่ราบสูงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  หรือที่เรียกสั้น ๆ  ว่า  อีสาน  นั้นมีประวัติการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาเนิ่นนานหลายพันปี  ดังปรากฏหลักฐานทางโบราณคดี  และโบราณวัตถุที่สามารถสืบค้นและระบุถึงอายุได้  การสร้างบ้านเรือนก็คงเริ่มมีมาตั้งแต่มนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์  แล้วได้วิวัฒนาการต่อเนื่องกันมาหลายยุค  หลายสมัย  จนมาปรากฏเป็นรูปแบบที่ถาวรมั่นคง  และคงเหลือไว้เป็นหลักฐาน  ชาวไทยพวนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์  ไท-ลาว  กลุ่มหนึ่งที่มีภูมิลำเนาอยู่บริเวณภาคเหนือของลาวที่เรียกว่า  เมืองพวนหรือแขวงเชียงขวาง  สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบัน  มีประเพณีและวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มของตนเอง  จนสามารถตั้งตัวเป็นอาณาจักรเล็ก ๆ  อยู่ทางตอนเหนือที่ติดเวียดนามและลาว  ซึ่งมักจะตกอยู่ในอำนาจภายใต้อิทธิผลของลาวและเวียดนามเพราะมีกำลังที่ด้อยกว่าจำเป็นต้องส่งเครื่องบรรณการให้แก่อาณาจักรทั้งสองอยู่เสมอ  ถ้าหากมีกำลังเข้มแข็งก็ประกาศตนเป็นเอกราช 
มีพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ครองราชย์สืบต่อกันมา  จนถึงอาณาจักรลาวถูกแบ่งแยกเป็นสองอาณาจักร  และเมื่ออาณาจักรเข้าไปมีอิทธิพล  อาณาจักรพวนก็ต้องส่งเครื่องบรรณาการด้วยเช่นกัน  ชาวพวนมักจะถูก  ลาว  เวียดนาม  และไทย  กวาดต้อนผู้คนเข้าไปอยู่ในเขตอิทธิพลของพวกเขา  จนกระทั่งคนพวนที่มีอยู่ในแขวงเชียงขวางในปัจจุบันมีน้อยกว่าคนพวนที่อย่าภายในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็สืบเนื่องมาจากผลแห่งสภาวะของสงคราม  ในภูมิภาคแถบนี้ตั้งแต่อดีต  โดยเฉพาะสงครามระหว่างไทยกับลาว  ส่งผลให้ชาวไทยพวนถูกกวาดต้อนและอพยพเข้าสู่ประเทศไทยหลายต่อหลายครั้ง  และปักถิ่นฐานในประเทศไทย  เกือบทุกภาค
                         การอพยพของชาวไทยพวนเข้าสู่ประเทศไทยยังคงดำเนินต่อไป  ดังเช่นในปี  พ.ศ.  2369  เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์พยายามตั้งตนเป็นอิสระ  พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าฯ  ให้กรมพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นแม่ทัพหลวงยกทัพไปปราบปรามจนราบคาบ 
ได้กวาดต้อนรับครอบครัวลาว  แล้วโปรดเกล้าฯ  ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เมืองชัยนาท  รวมถึงหัวเมืองชายทะเลตะวันออก  เช่น  เมืองนครไชยศรี  เมืองสุพรรณบุรี  เมืองสระบุรี  และเมืองลพบุรี 
(หอสมุดแห่งชาติ.    2507  ก  :  344
                         การอพยพไทยพวนเข้าสู่ประเทศไทย  มีสาเหตุสำคัญจากศึกสงครามระหว่างอาณาจักรลาว  เมื่อไทยเป็นฝ่ายชนะในศึกก็จะทำการกวาดต้อนผู้คนเข้ามาในประเทศไทย  ทั้งนี้เนื่องมาจากแรงงานเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลิต  นอกจากนี้การกวาดต้อนผู้คนเป็นนโยบายทางด้านยุทธศาสตร์  เนื่องจากเมืองพวนเป็นดินแดนที่ญวนใช้เป็นทางผ่านเข้ามาขยายอาณาจักรในเขตลาว  เมื่อไทย
ไม่มีกำลังพอที่จะควบคุมเมืองประเทศราชได้จึงใช้วิธีกวาดต้อนชาวไทยพวนและชนชาติอื่นในเมืองพวนข้ามแม่น้ำโขงเข้ามาโดยไม่ทิ้งไว้ให้เป็นกำลังของข้าศึกคือญวน  (จีระนันท์  พิตรปรีชา.    2529  110-120)  นอกจากนี้การกวาดต้อนเชลยศึกกลับประเทศไทยยังเป็นการทอนกำลังฝ่ายข้าศึกในการทำสงครามในอนาคต  อีกทั้งยังเป็นการทดแทนจำนวนพลที่สูญเสียไปในระหว่างการสู้รบอีกด้วย
                         การเคลื่อนย้ายของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยพวน
                               ชาวพวนเป็นชนกลุ่มหนึ่ง  เดิมมีถิ่นฐานอยู่ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงตอนเหนือของประเทศลาวบริเวณซำเหนือ  (วิเชียร  วงศ์วิเศษ.    2517  ไม่มีเลขหน้า)  ปัจจุบันนี้คือ  เมืองพวนแขวงเมืองเชียงขวางในประเทศลาว  ลักษณะภูมิประเทศของเมืองพวนจะเป็นที่ราบสูง  มีภูเขาสลับซับซ้อน  ที่ดินอุดมสมบูรณ์  อากาศเย็น  เป็นต้นกำเนิดของน้ำงึม  น้ำเนียหรือน้ำเนียบและน้ำซันที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง  อาณาบริเวณใกล้เคียงเมืองพวนประกอบด้วยเมืองสำคัญ  คือ  เมืองเชียงขวาง  เมืองคำ  เมืองแสน  เมืองสุย  เมืองโมก  เมืองกางและเมืองเสียง  เมืองพวนมีเขตแดนติดต่อกับญวนทางตะวันตก  ติดต่อกับแดนไทยสิบสองปันนา  ซึ่งขึ้นกับพม่าทางใต้ติดกับกรุงศรีสัตนาคนหุตหรือ
ล้านช้าง  เมื่อกรุงศรีสัตนาคนหุตมีอำนาจได้รวมแคว้นสิบสองจุไทยรวมทั้งเมืองพวนเข้าไว้
ในอาณาจักรของตน  ต่อมากรุงศรีสัตนาคนหุตอ่อนอำนาจลง  การปกครองหัวเมืองอยู่ห่างไกล
ก็มีน้อยลงตามไปด้วย  จนกระทั่งในที่สุดกรุงศรีสัตนาคนหุตแยกออกเป็นสองอาณาเขต  คือ 
หลวงพระบาง  และเวียงจันทน์  เมืองพวนจึงแยกไปขึ้นกับนครเวียงจันทน์นับแต่นั้นมา  (ถวิล 

เกษราช.    2512  :  342-344)  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น